วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

คนที่ไม่มีโอกาสคือคนที่ตายแล้ว



โอกาสเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของเราเป็นอย่างมาก เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คนที่ประสบความสำเร็จก็คือคนที่ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป ฟรานซิสต์ เบคอน (Francis Bacon) ได้กล่าวเอาไว้ว่า "A wise man will make more opportunities than he finds. คนฉลาดมักจะหาโอกาสมากกว่าที่เจอ” คำพูดของฟรานซิสต์ เบคอน ได้แสดงให้รู้ว่า นอกจากโอกาสที่เราเจอแล้ว เราควรหาโอกาสอีกด้วย

ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช ๒๕๒๕ โอกาส แปลว่าช่อง, ทาง, เวลาที่เหมาะ, จังหวะ

Oxford Student’s Dictionary of English ได้ให้ความหมายของโอกาสว่า “A chance to do something that you would like to do. (ช่องทางที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่คุณอยากจะทำลงไป)”

เพราะฉะนั้น โอกาส หมายถึง ช่องทางหรือจังหวะเวลาที่เหมาะสมสำหรับทำการสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไป

โอกาสมีอยู่ทุกหนทุกแห่งและทุกจังหวะของคนเราทุกคน อยู่ที่ว่าเราจะคว้าโอกาสนั้นไว้หรือไม่ เหมือนกับมีคำกล่าวว่า คนที่ไม่มีโอกาสคือคนที่ตายแล้ว ในมุมมองของผู้เขียนเองมองว่า โอกาสเปรียบเหมือนสายลมอันบริสุทธิ์ที่พัดผ่านมาหาเรา เมื่อมันพัดผ่านมาแล้วก็รีบสูดลมหายใจนั้นเข้าสู่ร่างกาย โอกาสก็เช่นเดียวกันเมื่อมันเข้ามาหาเราก็รีบไขว่คว้า หรือไม่ปล่อยให้หลุดมือไปและพร้อมที่จะนำโอกาสนั้นมาสร้างประสบการณ์ชีวิต

เมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้อ่าน fwd mail ที่เกี่ยวกับโอกาสจึงขอหยิบยกมาไว้เป็นตัวอย่าง

ที่เมืองหนึ่งของประเทศกรีก เคยมีรูปปั้นแกะสลักตั้งอู่ใจกลางเมือง ปัจจุบันนี้ รูปปั้นนี้ไม่เหลือแม้แต่ซาก แต่แผ่นที่จารึกที่บรรยายเกี่ยวกับรูปปั้นยังคงเหลืออยู่ คำบรรยายเขียนไว้ในรูปแบบการสนทนาระหว่างรูปปั้นกับคนที่เดินผ่านไปมา

"รูปปั้นเอ๋ย ท่านชื่ออะไร"

"ฉันชื่อโอกาส"

"ใครเป็นคนแกะสลักท่านขึ้นมา"

"ช่างแกะสลักชื่อ ลีซีปัส"

"ทำไมท่านจึงยืนเขย่งเท้า?"

"เพื่อบ่งบอกว่าฉันอยู่เพียงชั่วครู่ชั่วยาม"

"แล้วทำไมที่เท้าของท่านจึงมีปีก"

"เพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว"

"แต่ทำไมผมด้านหน้าของท่านจึงยาวอย่างนี้"

"ก็เพื่อให้คนที่พบฉัน จะได้จับฉวยไว้ได้ง่าย"

"แล้วทำไมหัวด้านหลังของท่านจึงล้าน ไม่มีผมแม้แต่เส้นเดียว"

"ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า เมื่อฉันผ่านไปแล้ว ก็ยากที่จะจับฉันได้ใหม่"

จริงด้วย ทางด้านหน้าของ "โอกาส" มีผมยาวแต่ด้านหลังล้านเกลี้ยง เพราะเมื่อปล่อยให้ "โอกาส" ผ่านไปแล้ว ก็ยากที่จะจับยึดมันกลับมาได้อีก "โอกาส" จึงเร้าเตือนเราทุกคนว่า "อย่ามาต่อว่าฉัน ว่า ฉันไม่เคยมาเยี่ยมกราย เพราะบ่อยครั้งเหลือเกินที่ฉันมาเคาะประตู แต่เธอกลับไม่อยู่บ้าน ทุกวัน ฉันยืนรออยู่ที่หน้าบ้านเธอ เรียกให้เธอตื่น ให้ขยันขันแข็ง ให้รีบตัดสินใจ ให้ลงมือทำ ให้ออกแรง ให้สู้ เพื่อจะได้มาซึ่งชัยชนะและความสำเร็จ จงอย่าปล่อยให้ฉันผ่านไป เธอจะได้ไม่ต้องนั่งเสียใจในภายหลัง ที่ฉัน "โอกาส" ผ่านมา แต่เธอไม่รู้จักจับฉวย

อีกสักตัวอย่างหนึ่งเพื่อให้ผู้อ่านได้มั่นใจมากยิ่งขึ้น ว่า “โอกาส” มีความสำคัญอย่างไรต่อการดำเนินชีวิตของคนเราและมองโอกาสคือเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ

มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่

ทันใดนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งก็ถามขึ้นมา ว่า

ลูกศิษย์ : อาจารย์คับ ผมสงสัยจังเลยว่า เราจะหาโอกาสเจอได้ไงคับ

อาจารย์บอกผมหน่อยได้ใหม คับ?

อาจารย์ : (เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ) อืม มันเป็นคำถามที่ยากน่ะ

ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถาม ที่ง่ายเหมือนกันน่ะ

ลูกศิษย์ : (นั่งคิดอย่างหนัก) อืม? . . . งงอ่ะไม่เข้าใจ

อาจารย์ : โอเค งั้นเธอลองมองไปทางนั้นนะ ตรงนั้นน่ะ มีหญ้าเยอะแยะ เลยใช่ใหม เธอลองเดินไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุด แล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นน่ะ แต่ว่า เวลาเธอเดินเนี่ยะ เธอต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวน่ะ ห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจใหม

ลูกศิษย์ : ได้เลยครับ อาจารย์ รอสักครู่น่ะครับ (ว่าแล้วก็วิ่งตรงไปยังสนามหญ้า)

หลังจากนั้นไม่นาน. . .

ลูกศิษย์ : ผมกลับมาแล้วครับจารย์

อาจารย์ : อืม . . แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวยๆ ในมือเธอเลยหล่ะ

ลูกศิษย์ : อ๋อ คืองี้ครับจารย์ ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวยๆเนี่ยผมก้อคิดว่า เออ เดี๋ยว ก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้ ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมัน แล้วผมก็เดินไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีมันก็สุดสนามหญ้าแล้ว ครับจะเดินกลับก็ไม่ได้ เพราะจารย์สั่งห้ามไว้

อาจารย์: นั่นแหละ คือสิ่งที่จะเกิดในชีวิตจริงหล่ะ

เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา บางอย่าง

ต้นหญ้า ก็คือ โอกาสที่อยู่รอบๆตัวคุณ

ต้นหญ้าที่สวยงาม ก็คือ โอกาสที่มาหาคุณนั่นแหละ

ส่วนทุ่งหญ้า ก็คือ เวลาที่คุณจะหาโอกาส อย่ามัวแต่เปรียบเทียบหรือรอจังหวะแล้วคิดว่าคงจะมีที่ดีกว่านี้เพราะถ้าคุณมัวแต่เปรียบเทียบคุณก็จะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่าลืมว่า "เวลาไม่เคยย้อนกลับ"

จะสังเกตเห็นได้ว่า โอกาส ไม่ได้มีบ่อยครั้งมากนัก โอกาสเป็นสิ่งที่คนเราไม่สามารถจะบอกหรือรู้กาลล่วงหน้าว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ แต่ในทุกๆครั้งของโอกาสที่ผ่านไป เราก็ได้แต่ตอกย้ำตัวเองว่า ถ้าวันนั้นเราได้คว้าโอกาสนั้นมาไว้และใช้มันให้เป็นประโยชน์เราก็คงไม่ต้องมานั่งผิดหวังอย่างนี้

หลักการปฏิบัติเกี่ยวโอกาส

1.พร้อมสำหรับโอกาส บางครั้งในการทำอย่างใดอย่างหนึ่งเราต้องรอ เพื่อโอกาสที่ดี เช่นการจะทำนา ต้องรอ ดิน ฟ้า อากาศ ให้เหมาะสม โอกาสก็เช่นเดียวกัน แม้มันยังมาไม่ถึง เราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมไว้เสมอ ดั่งที่มีคำกล่าวว่า “จงเตรียมพร้อมสำหรับโอกาส ถึงแม้จะยังไม่มี ก็ยังดีกว่าเมื่อโอกาสมาถึงแต่เราไม่ได้เตรียมพร้อม”

2.สร้างโอกาส มีภาษิตไทยกล่าวไว้ว่า “บ่อน้ำไม่เคยวิ่งมาหาควาย มีแต่ควายวิ่งมาหาบ่อน้ำ” คนเราจะรอโอกาสวิ่งเข้ามาหาอย่างเดียวไม่ได้ แน่นอนเลยว่า หลายท่านอาจจะขาดโอกาส แต่คำว่า ขาดโอกาส ไม่ได้หมายความว่า เราไม่มีโอกาส นั้นก็หมายถึงว่า หากขาดโอกาสก็ควรหาโอกาสโดยใช้ฝีมือและความรู้ที่เรามีหาโอกาสนั้น

3.พลิกวิกฤติเป็นโอกาส คำนี้คงเป็นที่คุ้นหูกันอย่างดี หลายคนมีปัญหาที่มารุมเร้าเยอะมาก ยากที่จะมาสร้างโอกาส แค่แก้ปัญหาก็หมดเวลาในการสร้างโอกาส ดังเช่นตัวอย่างของ พระเจ้าจันทรคุปต์ ปู่ของพระเจ้าอโศก นำทัพไปรบกู้บ้านกู้เมืองแพ้ พอแพ้ขึ้นมาหนีไปอยู่ที่ริมกระท่อมชาวนา หมดกำลังใจ ได้ยินเสียงเด็กร้อง แม่ก็ตีเด็ก ซ้ำเข้าไปอีก แล้วก็ด่าว่า "เอ็งมันโง่ โง่เหมือนพระเจ้าจันทรคุปต์ ใครเขากินขนมเบื้องกันตรงกลางหล่ะ ไปกินตรงกลางมันก็แข็งสิ มันต้องกินที่ขอบก่อนสิ พระเจ้าจันทรคุปต์ได้ยินดังนั้นก็คิดได้ขึ้นมาว่าเราควรจะนำยาตราทัพไปตีเมืองเล็กๆก่อนค่อยไปตีกลางใจเมือง สุดท้ายก็ชนะได้สำเร็จ เรื่องนี้ก็บ่งบอกถึงว่า พระเจ้าจันทรคุปต์พลิกวิกฤติเป็นโอกาส แม้สถานการณ์จะตกเป็นฝ่ายแพ้ แต่ก็นำมาสู่ความชัยชนะได้


4 ความคิดเห็น:

  1. ว้าว... บทความนี้ดีอ่ะ ~
    แหล่มดี! เห็นไหมว่า พี่น่ะเขียนบทความได้ดี
    ที่บอกว่า เป็นคนเบื่อง่าย อืม...พอจะเข้าใจ
    แต่ว่า...
    ค่อยๆ เขียนไปเรื่อยๆ ถ้าเบื่อก็พักไว้ อยากเขียนเมื่อไหร่ก็เริ่มใหม่ได้...
    ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร เนอะ!

    วันนี้เก่งมาก เขียนผิดแค่ตัวเดียวเอง..

    " A chance to do something that you whould like to do "
    << would ไม่มี h

    แล้วจะรออ่านบทความต่อไปเด้อ..
    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ อีกครั้ง!

    ตอบลบ
  2. เง้อ. . อย่าบอกใครน่ะว่าพี่เรียนเอกภาษาอังกฤษ

    เสียสถาบันหมด..

    ตอบลบ
  3. ถ้าจะเอาคลิปวีดีโอลง ต้องทำยังไงหรอ

    ทำไม่เป็นอ่ะ

    ตอบลบ
  4. ถ้าเอาวีดีโอจากเว็บ ให้ copy code จากเว็บมาใส่ในตรงเขียนบทความแหละ ใส่ใน html นะ

    ถ้าเอามาจากเครื่อง ให้ไปที่ เพิ่มวีดีโอ อยู่ด้านบนตรงที่เขียนบทความ
    ข้างๆกับเพิ่มภาพอ่ะคะ แล้วก็เลือกไฟล์ที่ต้องการ
    จากนั้นตั้งชื่อแล้วกดตกลง

    ทำไมไม่ออนเอ็มมาถาม?

    กรุณาออนด้วย.. ไม่มีใครคุยด้วยเน้!!

    ตอบลบ